วันนี้ตื่นเช้ากว่าที่ทัวร์นัด ดูเวลาเมืองไทย น่าจะประมาณ 9 โมงเช้า เลยคิดว่า เรื่อง Ballon ไม่ควรนิ่งเฉย และปล่อยให้เลยผ่านไปจนจบทริป โดยไม่รู้ว่า ใครกันแน่ ที่ทำให้เราไม่ได้ขึ้น Ballon ที่ Cappadocia  เลยตัดสินใจโทรหา บริษัท HIT tour บริษัททัวร์ที่เราซื้อโปรแกรมตุรกี โทรไปเล่าเหตุการณ์ต่างๆให้น้องบิวตี้ ตัวแทน บริษัทฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และให้การบ้านไปว่า พี่ขอรู้สักหน่อยว่า ความผิดพลาดนี้คือของใคร เพราะอย่างไรมันเป็นความรับผิดชอบ ของHIT tour บั่นทอนความไว้ใจและความน่าเชื่อถือที่สะสมมา

อาหารเช้าวันนี้ละลานตามาก นี่สิมาตราฐานอาหารโรงแรม นั่งกินข้าวสักพัก ลาเล่ ไกด์ท้องถิ่น ก็เข้ามาคุยด้วยถึงเรื่อง Ballon  มาพูดเริ่มเรื่องว่า จริงๆ ไอ ไม่อยากโกหกนะ  อยู่ในฐานะ พูดอะไรไม่ได้ แล้วว่าต่อง บลา บลา บลา ... เลยถามเข้าเป้าไปว่า ยูรู้ว่าพวกเราจะไม่ได้ขึ้นบอลลูนที่ Cappadocia แล้วหาทางออกโดยให้มาขึ้นที่ Pamukkale ใช่ไหม นางตอบ .ใช่  ..... แล้วถามต่อไปว่า ยูรู้ว่าใครเป็นคนผิดใช่ไหมที่ไม่ได้ทำBooking มา นางตอบ. ใช่ แต่นางพูดอะไรไม่ได้มาก  น่านนนงัย ..... เซ็ง...... 

วันนี้เป็นวันนั่งรถอีกตามเคย เรานั่งรถกันทั้งวัน จาก Kusadai - Bergama แวะเที่ยวที่ Akropolis ที่เดียว แล้วนั่งรถยาวเข้าโรงแรม ที่เมือง  Canakale 

พอกินข้าวเสร็จ Local Guide พาเราไปร้านเสื้อหนัง  EMELDA ซึ่งเป็นร้านบังคับ เพราะทัวร์ไหนมาก็ต้องมาที่นี่ ที่นี่น่าจะเป็น ร้าน Show room outlet   เค้าบอกว่าเค้าผลิตเสื้อหนังให้กับแบรนด์ระดับโลกต่างๆ เราเห็นตึกร้านเค้าใน istanbul ด้วย มาถึงเค้าพาเราไปห้องเดิน แฟชั่นโชว์ ก็มีบรรดา นายแบบ นางแบบ ใส่เสื้อหนังที่ติดป้ายเบอร์ เพื่อใครสนใจตัวไหนให้จดเบอร์ไว้ และแล้วการเดินแบบมี ไฮไลต์ ช่วงสุดท้าย คือ เอาคนดู เชิญขึ้นไป ใส่เสื้อหนัง เดิน cat walk ร่วมด้วย อันนี้เป็นประสบการณ์ร่วมที่สนุกดี ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับโปรดักส์แบบจริงจัง แถมได้ใส่เดินแบบตามจังหวะเพลงอีก

ท้ายสุดก็เข้าไปที่ showroom ทีมเราพ่อ แม่ ลูก ได้แจ๊คเกตหนังคนละตัว หมดไป  2,200 USD ... ตัวเบาเดินออกมาเลย

LUNCH  สรุปคือครึ่งเช้าของคณะทัวร์เวลาหมดไปกับร้านเสื้อหนัง

แล้วเราก็นั่งรถต่อมาที่เมือง 

Bergama (แบร์กามา) เมืองบนชายฝั่งทะเลเอเจียน ห่างจากทะเลอิเจีย Aegean Sea 30 กม. มีชื่อเสียงจากซากเมืองเก่า เพอร์กามอน (Pergamon) ในสมัยโรมันเป็นเมืองที่มีชื่อเสียง ก่อนเมืองเอฟเฟซุส  กลุ่มชาวกรีก อีโอเลียน (Aeolian) ผู้บุกเบิกเข้ามาตั้งรกราก 800 ปี ก่อน คริสตกาล ตัวเมืองตั้งอยู่บนภูเขาสูงที่มีชื่อว่า อะโครโพลิส (Akropolis)  รุ่งเรืองที่สุดในยุคของพระเจ้า อูเมเนสที่ 1 (Eumenenes I) ราชวงศ์เพอกามาเน่ ( Pergamane) ระหว่าง 263- 241 ก่อนคริสตกาล เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของโลกในสมัยนั้น กษัตริย์องค์สุดท้าย คือ พระเจ้า แอททาลุสที่ 3  (Attalus III) ทรงยกเมืองให้แก่อาณาจักรโรมัน เมือ 133  ปี ก่อนคริสกาล และได้กลายมาเป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นเอเซีย ภายใต้อาณาจักรโรมัน 

พอมาถึงเราต้องนั่งกระเช้าขึ้นไปยังเมือง Akropolis เพราะตั้งอยู่บนภูเขาสูง ตรงสถานีมีป้าย UNESCO  ติดไว้ ที่นี่ น่าจะเป็นอีกหนึ่ง World Heritage  พอขึ้นไปแล้ว ก็เจอร้านขายของอยู่หน้าสถานี คนขายพูดภาษไทยได้ดี ตะโกนบอกราคา กันเจื่อยแจ่ว ประมาณ 4 ใบ ร้อย , 5 ใบ 60 อะไรทำนองนี้  ที่ Akropolis จะเจอแต่ซากปรักหักพัก ตอเสา ถ้าไกด์ไม่ได้ชี้ชวน และ อธิบายว่า เป็นอะไรมาก่อน มองออกค่อนข้างยากเหมือนกัน นอกจากโครงประตูและเสา ซากแต่ละที่จะมีสิ่งสำคัญ ประมาณนี้ แท่นบูชาเทพเจ้าซุส (Altar of Zeus), มหาวิหารเอเรน่า, โรงละคร (Theatre), ห้องสมุด (Library), Temple of Trajan, เสาหินอ่อน (Trajaneum)

ที่นี่ไม่ค่อยมีต้นไม้  และแดดแรงมาก นักท่องเที่ยวที่นี่ไม่เยอะเท่าที่ Ephesus เอฟฟิซุส แต่ที่แปลกมากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เจอเป็นกรุ๊ปมาจากเมืองไทย คนไทยทั้งนั้นเลย 

ตรงที่เก็บบัตร ทางขวาจะเป็น ร้านบูธแบบชาวบ้านๆ ขายเครื่องดื่ม ใครมาแล้ว นั่งพัก สั่งเครื่องดื่ม ได้ราคาไม่แพง จะมีเด็กชายวัยประมาณ 10 ขวบ อารมณ์ช่วยพ่อแม่ขายของ มารับออร์เดอร์ แล้วมาเสิร์ฟ น่ารักดี 

รถออกจาก  Akropolis ประมาณ บ่ายสามมาถึงโรงแรม ที่ Canakale เกือบทุ่ม นั่งรถช่วงบ่ายอีก 4 ชม

สรุปได้ว่าประเทศตุรกี นี่เป็น Road Trip อย่างจริงจังมาก 

Dinner :  Parion Hotel 

Rrin Rrin

FB: Rrin Rrin
IG: rrinrrinlee