เมืองทรอย หรือ ทรูว่า (Truva) อยู่ใกล้กับเมืองท่า Canakale จากที่เราพัก ประมาณ 30 นาที
8.00 น. ออกจากโรงแรม 8.30 น. รถก็พาเรามาเจอ ม้าไม้แห่งเมืองทรอย Wooden Horse of Troy ที่สร้างขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ที่หลงใหลในมหากาพย์อีเลียด
เมืองนี้โด่งดังมาจากตำนานม้าไม้ ของขวัญปลอมๆ จากกษัตริย์สปาต้า (Spata) ส่งไปให้ กษัตริย์โทรจัน (Trojan) โดยซ่อนทหารไว้ภายในหวังว่าจะยึดเมืองและเพื่อชิงตัวลูกสาวคืน ถูกเรียบเรียงเรื่องราวเป็นมหากาพย์โดยกวีตาบอด โฮมเมอร์ (Homer) ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังสมัยกรีก จนกระทั้งตำนานนี้ถูกพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริง โดย ไฮริช ชไลมานน์ (Heinrich Schilemann) ผู้ค้นพบสถานที่แห่งนี้ การขุดพบในครั้งนี้ยังไปเจอ เนิน วิลูซ่า (Wilusa) ซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งอารยธรรมโบราณของชนเผ่า ฮิตไตท์ ซึ่งน้อนไปกว่า 3,000 ปี ก่อนคริสตกาล
การขุดค้นของนาย ชไลมานน์ ซึ่งไม่ใช่นักโบราณคดี จึงทำให้โบราณสถาน และวัตถุหลายส่วนเสียหาย การมาค้นพบเมืองทรอยครั้งนี้ ทำให้เขาพบสมบัติมากมาย เช่อน ทองคำ, สร้อยคอ, กริช, หอก ฯลฯ ซึ่งเป็นสมบัติของกษัตริย์เพรียม (King Priam) สมบัติเหล่านี้เคยตกไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์กรุงเบอร์ลิน แล้วสูญหายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนท้ายสุดไปปรากฎอยู่ใน พิพิธภัณฑ์ ปุชกิ้น (Pushkin) ประเทศรัสเซีย ในปี ค.ศ. 1996
หลังจากนั้นเรากลับมาที่เมือง Canakale ลงเรือ Ferry ผ่านช่องแคบมาร์มาร่า Marmara Sea สู่คาบสมุทร แกลลิโปลี Gallipoli ทางตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกี ซึ่งไม่ไกลจาก เมือง Istanbul เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ บริเวณจึงเคยเป็นสมรภูมิหารสู้รบในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างตุรกี กับฝ่ายสัมพันธมิตร
Lunch ร้านอาหารที่เรารับประทาน เป็นร้านที่อยู่ติดกับท่าเรือเลย (เสริฟ ปลาซาบะ รอบที่ 1)
วันนี้เรากินอาหารกลางวัน 11.30 น.
หลังจากนั้นเชื่อไหมว่า เรานั่งรถกันอีก 5 ชั่วโมงกว่าจะถึงจุดหมายใน Istanbul
ตอนแรกออกจะสงสัย เราขึ้น ประมาณ 12.00 น. ทำไมไกด์บอกเราว่า อีก 5 ชั่วโมงจึงจะถึง istanbul
ความจริงคือ เราถึง มหานคร เริ่มเห็นตึกสูงๆ เป็นแนวๆ ซ้อนๆกัน ตั้งแต่ 15.30 น. แต่ด้วยความที่รถติดอย่างมาก เราไปถึง Spice market ตอนห้าโมงเย็น .... บอกเลยวันนี้เดินทางเหนื่อยจริงจัง
สวัสดี Constantinole......
Istanbul ได้รับสมญานามว่า กรุงโรมตะวันออก ตั้งอยู่ ช่องแคบบอสฟอรัส Bosphorus เดิมชื่อ Constantinople เมื่อเติร์กรบชนะ ในปี ค.ศ.1453 จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Istanbul และเปลี่ยนจากศาสนาคริส เป็นอิสลาม ปกครองโดยสำนัก ออตโตมาน จึงเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรม ของหลายยุค และ หลายวัฒนธรรม และบรรพบุรษชาวเติร์ก ได้ทิ้งมรดกทางวัฒนธรรมในรูปแบบของวัตถุที่มีอายุ ย้อนหลังไปนับพันปี
ที่แรกที่เรามาเยือนคือ Egyptian Market หรือ Spice Market สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ศตวรรษที่ 17 มีสุเหร่าใหญ่อยู่ตรงหน้าตลาด กำลังอยู่ระหว่างปรับปรุง คนพลุพล่านเยอะแยะ จนต้องระวังกระเป๋า
ห้องน้ำสาธารณะที่นี่ถือว่าสะอาดมาก ตอนแรกเห็นคนเยอะมากเรียงคิวกัน นึกว่าจะสกปรก
ไกด์ให้เวลาเรา 1 ชม. สำหรับที่นี่ พอเข้าไปเดินก็ตื่นตา ตื่นใจสำหรับคนทำอาหารอย่างครอบครัวเรา เครื่องเทศหลายสี มีหลายชนิด แต่ละร้านจะมีคนขายอยู่หน้าร้านเรียกลูกค้าเข้าร้านของตัวเอง รรินซื้อที่บดเครื่องเทศมาได้ 1 อัน
เราเดินดูของอยู่ในบริเวณตลาดในเต้นท์ร่ม เพราะลองเดินออกไปด้านนอกแล้ว ของที่ขายจะเป็นแนวสำเพ็ง โบเบ้ บ้านเราไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ
หลังจากนั้น เราไปกินอาหารค่ำ (เสริฟ ปลาซาบะ รอบที่ 2) ร้านอยู่แนว Pier ตรงสะพาน Galata....
รถรอเราอยู่ตรงสะพานพอดีเวลาพระอาทิตย์ตกดิน 7.30 น. วันพฤหัสที่ 3 พฤษภาคม 2561
Rrin Rrin
FB: Rrin Rrin IG : rrinrrinlee
|